วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

พุทธศาสนากับการทำงานเป็นทีม


มีหน่วยงานแห่งหนึ่งเชิญผมไปบรรยายให้ผู้บริหารประมาณ 200 คนฟัง ในหัวข้อ "อุปสรรคของการทำงานเป็นทีม" และ "การประยุกต์นำธรรมะมาใช้ในการทำงานเป็นทีม"

          คงจะเห็นว่าระยะหลังๆ นี้ผมสนใจธรรมมะผสมจิตวิทยามากขึ้น จึงเชิญให้บรรยายในหัวข้อดังกล่าว

          แต่ก็เร้าใจดีทั้งผู้พูดและผู้ฟังว่าผู้พูดจะพูดได้น่าง่วงหรือน่าสนใจ หรือผู้ฟังจะตั้งใจฟังหรือตกใจที่จะฟัง

          ในระยะหลังๆ นี้การทำงานเป็นทีมทำได้ยากมากขึ้น แม้จะพยายามให้รางวัลหรือเงินตอบแทนอย่างดี ให้เวลาและเทคนิคการพัฒนามากขึ้น ผมออกมาก็ไม่ได้ดีดังใจ

          อุปสรรคของการทำงานเป็นทีมในขณะนี้ก็คือ

1. เป้าหมายของการทำงานอยู่ที่ความสำเร็จ ไม่ใช่ความสุข แต่มนุษย์ต้องการความสุขเขาจึงหน่ายที่จะทำงาน

แต่ถ้าทำให้เขารู้สึกว่า เขาทำงานแล้วเขาได้ความสุขของชีวิตซิ เขาจึงจะทำ! แล้วความสำเร็จจะค่อยๆ ตามมา

2. คนไม่เชื่อคน ไม่ศรัทธาคน ทำให้ลูกน้องไม่เชื่อนาย และนายก็ระแวงลูกน้อง พนักงานระแวงกันเอง

ขณะนี้คนขาดศรัทธาในคนกันมาก เกิดภาวะระแวงและศรัทธา "ผี" หรือสิ่งศักดิ์สิทธ์มากกว่าคนทำให้การทำงานเป็นทีมเป็นไปได้ยาก

3. คนด้อยคุณภาพทั้งนายและลูกน้อง ขาดประสิทธิภาพในการทำงาน ขาดวินัย ขาดแบบอย่างที่ดี ไม่มีคุณธรรม อ่อนแอ ชอบเรียกร้อง แต่ไม่ลงมือทำและไม่รับผิดชอบ

4. การสื่อความหมายไม่ชัดเจน ขาดสมาธิในการฟังและพูด แย่งกันพูด ชอบระบาย ใจน้อย งอน ใจลอย สับสน และขัดแย้งในตัวเอง เครียด กังวลมากขึ้น การสื่อความหมายจึงไม่ดี การทำงานก็ไม่ได้ผลดี

5. ขาดการติดตามผลที่ดี มักใช้เส้นสาย อคติ หรือเข้าข้างในการติดตามผลหรือประเมินผล รวมทั้งผลตอบแทนหรือบทบาทการลงโทษ

6. คนขาดขวัญ-กำลังใจในการทำงาน

7. มองอนาคตไม่เห็น จึงไม่รู้จะทำงานไปทำไม

          ส่วนการแก้ไขที่จะให้คุณภาพของการทำงานเป็นทีมรวมทั้งการดำเนินชีวิตที่ดีขึ้นนั้น ผมแนะนำให้ทุกคนทำ "ความดี" ให้มากขึ้น ถ้าคนที่ไม่เชื่อ "กฎแห่งกรรม" ก็จะไม่ลงมือทำหรอก

          ถ้าคนที่เชื่อกฎแห่งกรรมก็จะลงมือทำได้ง่ายขึ้น เพราะเชื่อว่าผลดีจากการทำความดีจะได้ "บุญ" ทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ทำงานร่วมกันได้ดีด้วย

          การทำความดีซึ่งทำให้ได้ผลดีคือ "บุญ" ได้แก่ 

1. ทำทาน 2. ถือศีล (5 ข้อก็ใช้ได้) 3. ภาวนา เพื่อให้เกิดสติ สมาธิ และปัญญา 4. อ่อนน้อมถ่อมตน 5. บริการคนอื่น รับใช้คนอื่น 6. เฉลี่ยส่วนดีให้คนอื่น 7. ยินดีในความดีของคนอื่น 8. ฟังธรรมบ่อยๆ หาความรู้ใส่ตัว 9. สั่งสอนคนอื่น ให้ความรู้ ให้ธรรมะคนอื่น 10. ทำความเห็นให้ตรง คือเชื่อในพระพุทธเจ้า เชื่อกฎแห่งกรรม

          ทั้ง 10 ข้อนี้จริงๆ ก็คือ "บุญกิริยา 10" หรือการทำกรรมดีซึ่งจะได้บุญ มี 10 อย่าง

          ลองทำดูซิครับ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในทีมงาน หรืออยู่ในวิถีชีวิตที่พ้นจากการทำงานแล้ว

          จะเห็นว่าชีวิตของคุณจะเจริญขึ้น รู้สึกมีค่า มีความหมาย และทำงานร่วมกับคนอื่นได้ดี เข้ากับคนอื่นได้มากขึ้น

          ข้อสำคัญคุณจะเข้ากับตัวเองได้มากขึ้น รู้สึกนับถือตัวเองได้มากขึ้นทุกวันๆ

          และความสุขก็มาเคาะประตูหัวใจทุกวันเช่นกัน

ที่มา : ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์
UP Training  อ่านบทความอื่นๆ คลิก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น