วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ทำงานเป็นทีมเวิร์คอย่างไร? ให้เป็นทีมงานที่เเข็งเเกร่ง



          ไม่มีใครสามารถอยู่คนเดียวบนโลกได้ คำพูดนี้สามารถจำแนกออกมาเป็นแนวทางการใช้ชีวิตได้หลากหลายทางอย่างมากเช่นกัน และหากเราลองนำเอาคำพูดนี้มาจำแนกไปยังการปรับตัวเข้ากับการทำงานด้วย ในสถานที่ทำงานแต่ละแห่งนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ตัวเท่านั้น เราเลยต้องคิดให้หนักหน่อยในการที่จะทำงานหรือปฏิบัติงาน การทำงานเป็นทีมและรู้จักรับฟังความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงานด้วยนั้น คือสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้เราสามารถยอมรับในความคิดและการตัดสินใจของเพื่อนร่วมงาน รวมถึงเพื่อนร่วมงานเองก็สามารถยอมรับเราได้ด้วยเช่นกัน


          เราจะสามารถปรับตัวอย่างไรให้เราสามารถยอมรับความคิดและมุมมองต่างๆของเพื่อนร่วมงานของเราได้บ้าง เรามาดูกันเลยในแต่ละข้อ


          การทำโปรเจคต์ใหญ่ไม่มีทางสำเร็จด้วยตัวเองคนเดียว : แม้แต่ผู้บริหารของบริษัทเองแม้พวกเขาจะผ่านร้อนผ่านหนาวและเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่โชกโชนมากขนาดไหน แต่พวกเขาเองก็ไม่สามารถที่จะปฏิบัติงานได้ด้วยตัวคนเดียว โดยปราศจากที่ปรึกษา หรือทีมฝ่ายบริหารที่จะช่วยระดมสมองในการผลักดันโครงการต่างๆของบริษัทไปได้เช่นกัน การปฏิบัติงานอะไรเพียงคนเดียวโดยที่คิดว่าตัวเองมีความสามารถที่มากพอนั้นเป็นปัญหาใหญ่ที่จะทำให้คนที่ลงมือไปนั้นจะมารู้สึกเหนื่อยมากกว่าเดิมและอาจจะทำงานอยู่ท่ามกลางสายตาของเพื่อนร่วมงานที่ไม่เป็นมิตร อีกทั้ง โอกาสผิดพลาดเองก็มีโอกาสสูงอย่างมาก

การทำโครงการใหญ่ๆนั้นไม่มีใครที่จะสามารถรับผิดชอบในการทำงานเพียงคนเดียวได้อย่างแน่นอน การทำงานโดยรู้จักขอความช่วยเหลือและหัดทำงานแบบเป็นกลุ่มและเป็นทีม โอกาสที่งานจะสำเร็จโดยเร็วและยังถือว่าประสบความสำเร็จในด้านคุณภาพนั้นจะมีมากกว่าการทำคนเดียวอย่างแน่นอน ยกตัวอย่างได้อย่างเช่น การพัฒนาเว็บไซต์ขององค์กร นาย A อาจจะมีความสามารถในด้านการพัฒนาเว็บไซต์ด้วยภาษา HTML หรือ PHP แต่ก็ยังไม่มีความสามารถในการใช้ภาษา CSS ที่จะทำให้เว็บไซต์ออกมามีหน้าตาที่น่าสนใจมากขึ้น ก็ต้องขอความช่วยเหลือจากคนในทีมคือนาย B ที่มีความสามารถด้านนี้ รวมถึงขอให้นาย C ที่มีความสามารถในการเป็น Graphic Designer ช่วยออกแบบทั้งแบนเนอร์ โลโก้ของเว็บไซต์ให้ดูน่าสนใจมากขึ้น นี่คือความสำคัญของการทำงานเป็นทีม


          ถ้าหากเพื่อนไม่มีความสามารถคงจะไม่มาทำงานกับเราในออฟฟิศเดียวกันได้ : มีคนมากมายที่อีโก้ คิดว่าตัวเองเป็นคนที่มีความสามารถถึงได้เข้ามาทำงานในบริษัท หรือองค์กรนั้นๆ แต่ว่าอันที่จริงแล้วนั้น การที่คนอื่นที่เป็นเพื่อนร่วมงานกับเรา ได้เข้ามาทำงานเดียวกันกับในองค์กรของเราก็ใช่ว่าพวกเขาด้อยความสามารถ ความสามารถของพวกเขาเองก็ไม่ต่างจากเรามากเช่นกัน อยู่ในระดับไล่เลี่ยกับเรา หรืออาจจะสูงกว่าเราก็ได้ เพียงแต่พวกเขาไม่อีโก้และรู้จักถ่อมตัวเท่านั้นเอง เราจึงสมควรจะต้องรับฟังความคิดของคนอื่นด้วยเช่นกัน และมั่นใจในตัวเพื่อนของเราว่า ศักยภาพและความสามารถของพวกเขานั้นจะสามารถผลักดันงานของเราให้ประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน


          อย่าปากหนักในการจะขอความเห็นหรือขอความช่วยเหลือ : คนเราไม่ได้เก่งไปหมดเสียทุกเรื่อง ถ้าหากเราไม่ยึดติดเกี่ยวกับความอีโก้หรือความทะนงตนของตัวเองแล้วนั้น ลองใช้คำพูดดีๆของคุณนั้นขอความช่วยเหลือจากเพื่อนคุณดูบ้าง เผื่อที่จะทำให้ตัวคุณเองนั้นได้รับความคิด แนวทางในการปฏิบัติจากเพื่อนร่วมงานที่ดีมากขึ้น และอย่าลืมยิ้มตอบหรือกล่าวคำว่า “ขอบคุณ” ก็สามารถทำให้คุณกับเพื่อนร่วมงานนั้น จูนเข้าหากัน ช่วยเหลืองานกันได้ดีมากที่แล้วเช่นกัน


 
ที่มา : smartsme.tv
UP Training  อ่านบทความอื่นๆ คลิก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น